ผู้เขียน หัวข้อ: เทคโนโลยี และการวางกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มยอดขาย  (อ่าน 248 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 534
    • ดูรายละเอียด
เทคโนโลยี และการวางกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มยอดขาย
« เมื่อ: วันที่ 17 ธันวาคม 2023, 13:25:54 น. »
แนวทางการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือหรือใช้วางกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งกลยุทธ์การตลาด คือ ขั้นตอนกระบวนการคิดวิเคราะห์ออกมาเป็นแบบแผน ว่าทำอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดหรือเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ ด้วยรูปแบบการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้


1.อีเมล์ เบอร์โทรและข้อมูลสำคัญของลูกค้า ตัวเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจและลูกค้า

การติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ คือช่องทางติดต่อประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้าให้กับลูกค้าที่สามารถทำได้รวดเร็ว และทำได้หลากหลายช่องทาง แต่การวางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายด้วยวิธีนี้ จำเป็นจะต้องมีข้อมูลสำคัญของลูกค้า เช่น อีเมล์ เบอร์โทร หรือช่องทางการติดต่ออื่น ๆ


2.สังคมออนไลน์ และการใช้เครื่องมือออนไลน์เข้ามาช่วยติดต่อกับลูกค้า

สื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำมาใช้เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ บล็อก ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค แฟนเพจ line@ การนำช่องทางเหล่านี้มากำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาด ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าและแบรนด์ และทำให้องค์กรธุรกิจหาลูกค้าใหม่ ๆ หรือสร้างฐานลูกค้าเดิมให้เชื่อมั่นในสินค้าและแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งนักการตลาดจะต้องวิเคราะห์ให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะในการสื่อสารผ่านช่องทางดังกล่าว แล้ววางแผนกำหนดกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับความสนใจความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย



3.กลยุทธ์การค้าผ่านโซเชียล Social Commerce

การค้าผ่านโซเชียล หรือ Social Commerce เป็นช่องทางการขายส่วนหนึ่งของ E-commerce ซึ่งเป็นการใช้ Social Media ในการส่งเสริมการซื้อและขายสินค้าหรือบริการออนไลน์ โดยการใช้กลยุทธ์นำเสนอเนื้อหาที่แตกต่างกัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ เช่น การรีวิวความคิดเห็นจากลูกค้าเก่า ทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจและเป็นที่ยอมรับในช่องทาง Social Media ซึ่งนำไปสู่การสร้างยอดขายขายในที่สุด


4.กลยุทธ์การตลาดแอพมือถือ

แอพพลิเคชั่น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโปรแกรมถูกเขียนขึ้นมาด้วยภาษาเฉพาะด้าน เพื่อใช้สร้างเครื่องมืออย่าง เครื่องคิดเลข จัดการข้อมูลเอกสาร เครื่องฟังเพลง หรือเพื่อความบันเทิงอย่างแอพพลิเคชั่นเกมมือถือ ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดแอพมือถือ จึงขึ้นอยู่กับว่าองค์กรธุรกิจต้องการใช้อะไร เพื่อนำไปใช้ให้ก่อประโยชน์ ธุรกิจที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต มักจะสร้างแอพพลิเคชั่นของธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าหรือคนที่สนใจเข้าถึงได้ง่ายกว่าการเปิดเข้าไปในเว็บไซต์

ตัวอย่างแอพพลิเคชั่น 5 อันดับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Google Play, Apple App Store, Windows Store, Amazon App store และ BlackBerry World


5.กลยุทธ์ Green Marketing

Green Marketing เป็นการทำการตลาดที่มุ่งเน้นถึงความยั่งยืนและส่งเสริมการผลิตสินค้าที่คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก หรือเทรนด์การตลาดสีเขียวและไม่ใช่เป็นเพียงกลยุทธ์ที่จัดทำขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่จะเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสื่อโซเชียลและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับการรักษ์โลก ด้วย กลยุทธ์ 4P สำหรับแนวทางแบบธุรกิจสายกรีน มีดังนี้

-    การใช้กลยุทธ์ P-Product ในแนวทางของ Green Marketing  เช่น เลือกผลิตสินค้าจากวัสดุย่อยสลายได้ เลือกกระบวนการผลิตที่ไม่ปล่อยสารพิษทำร้ายโลก หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ทนทานและยั่งยืนที่สุดเพื่อลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
-    กลยุทธ์ P – Price, Green Price ราคาสีเขียว การตั้งราคาสินค้าและบริการตามแนวคิดGreen Marketing เป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนทั้งภาพลักษณ์และผลกำไรอย่างยั่งยืน โดยการกำหนดราคา องค์กรธุรกิจต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในมุมมองของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมีประโยชน์กับโลกในระยะยาว
-    กลยุทธ์ P – Place, Green Place สถานที่สีเขียว แนวทางการทำ Green Marketing อาจหมายถึงสถานที่การจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมไปถึงกระบวนการขนส่งต่าง ๆ เพื่อให้สินค้าและบริการไปถึงมือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เช่น การจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าในปริมาณมาก ๆ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรการขนส่งที่สิ้นเปลือง
-    กลยุทธ์ P – Promotion โปรโมชันสีเขียว แนวทางทำการตลาดของ Green Marketingได้แก่การประชาสัมพันธ์นั้นย้ำว่าธุรกิจทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมได้บ้าง (What) หรือสินค้าที่ผลิตออกมาเชื่อมโยงกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างไร (How) และสินค้าช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้ชีวิตแบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้นไหม (For Whom)


6.กลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

กลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หรือ Customer Relationship Management หมายถึงการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ามีความพอใจสูงสุดจากการใช้สินค้าหรือบริการ โดยไม่เปลี่ยนใจไปใช้สินค้าแบรนด์อื่นที่เป็นคู่แข่งด้านการตลาด กลยุทธ์ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ มีขั้นตอนที่สำคัญได้แก่ การนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีฐานข้อมูลของลูกค้าแล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งจัดกิจกรรมทางการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการ หรือสามารถแก้ปัญหาของผู้บริโภคได้ตรงกับปัญหาของลูกค้ามากที่สุด แนวทางกลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ มีดังนี้

    ประเมินผลลูกค้า เพื่อให้ทราบว่าองค์กรสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างไร หรือได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร โดยการนำเทคโนโลยีหรือโปรแกรมต่าง ๆ เข้ามาช่วย
    นำระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ เป็นการดำเนินธุรกิจโดยการใช้เทคโนโลยีเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์  เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ขาย การชำระเงิน และอื่น ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
    การใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ช่วยให้ลูกค้าและผู้ประกอบการ สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
    ระบบศูนย์บริการลูกค้า หรือ Call Center โดยการใช้ระบบ PC telephony รวมถึง Internet telephony ซึ่ง เป็นการรวมระบบโทรศัพท์เข้ากับระบบงานต่าง ๆ เช่น ฐานข้อมูลของลูกค้า การขาย การเงิน และผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว


เทคโนโลยี และการวางกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มยอดขาย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/