ผู้เขียน หัวข้อ: ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง  (อ่าน 341 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 443
    • ดูรายละเอียด
ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง
« เมื่อ: วันที่ 17 มีนาคม 2024, 11:41:03 น. »
การกินเค็มส่งผลเสียต่อไต ยิ่งไปกว่านั้นยังเพิ่มความเสี่ยงโรคไตเรื้อรังและเร่งให้ไตเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการรู้เท่าทันโรคไตเสื่อมเรื้อรังและลดเค็มตั้งแต่วันนี้ จึงไม่เพียงช่วยดูแลให้ไตแข็งแรง ยังช่วยให้ไตไม่เสื่อมก่อนวัยจนต้องเสียไตไป

รู้จักโรคไตเรื้อรัง

ไตเรื้อรังเป็นภาวะที่การทำงานของไตค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ไตจะค่อย ๆ มีขนาดเล็กลง ค่าอัตราการกรองของไตผิดปกติมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป หากไม่รีบรักษาอาจไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายต้องรักษาโดยการทดแทนไตเท่านั้น
กลุ่มเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง

    ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่  60 ปีขึ้นไป เพราะค่าการกรองไตลดลง
    ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
    ผู้ที่มีคนในครอบครัวป่วยโรคไตเรื้อรัง
    ผู้ที่มีไตข้างเดียวตั้งแต่กำเนิด

สังเกตอาการบอกไตเรื้อรัง

    ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
    ปัสสาวะเป็นฟองและต้องราดน้ำมากกว่า 2 – 3 ครั้ง
    หน้าและหนังตาบวม ขาบวมกดแล้วบุ๋ม จากการคั่งของเกลือและน้ำและมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะมาก
    อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
    ซีด
    คันตามตัว
    เบื่ออาหาร
    ความดันเลือดสูง

ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง

ประเภทไตเรื้อรัง

โรคไตเรื้อรังแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ตามระดับอัตราการกรองของไต (Estimated Glomerular Filtration Rate, eGFR) ซึ่งคือปริมาณเลือดที่ไหลผ่านตัวกรองของไตใน 1 นาที (มล./นาที/1.73 ตร.ม.)


ตรวจวินิจฉัยไตเรื้อรัง

แพทย์จะพิจารณาจากการตรวจเลือดและปัสสาวะเป็นหลัก โดยจะพิจารณาอัตราการกรองของไต (Estimated Glomerular Filtration Rate, eGFR) และการบาดเจ็บของไต เช่น โปรตีนรั่วในปัสสาวะเกิน 3 เดือน ถุงน้ำที่ไต เป็นต้น
รักษาไตเรื้อรัง

หลักการรักษาโรคไตเรื้อรัง คือการประคับประคองและป้องกันการชะลอไตไม่ให้เสื่อมเพิ่มขึ้น โดยไตจะไม่สามารถกลับไปดีกว่าเดิมได้ แต่สามารถดูแลให้ไม่เสื่อมมากกว่าเดิมหรือถดถอยลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้ป่วยเป็นสำคัญ

ลดเค็มชะลอไตเสื่อม

การลดเค็มเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง เพราะเกลือทำให้มีการสะสมของน้ำในร่างกายเยอะขึ้น ส่งผลให้เกิดการคั่งและบวม ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขจัดออก แรงดันในหน่วยไตสูงขึ้นจนพบโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ดังนั้นการลดเค็มจึงเป็นการช่วยไตไม่ให้ทำงานหนัก เมื่อร่างกายไม่บวม แรงดันในหน่วยไตปกติ ไม่เกิดโปรตีนรั่ว สามารถช่วยชะลอไตเสื่อมได้
เทคนิคลดโซเดียม

    ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2 กรัมต่อวัน
    ระวังอาหารที่ไม่เค็ม แต่มีโซเดียม เช่น อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรส ผงชูรส อาหารหมักดอง ขนมปังที่ใส่ผงฟู ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น
    ทำอาหารเองได้ย่อมดีที่สุด เพราะควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหารได้ โดยเฉพาะการเลือกเครื่องปรุงที่โซเดียมต่ำและใส่ให้น้อยลง
    เลี่ยงอาหารเสริมที่มีปริมาณโซเดียมสูง ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนรับประทาน

เพราะไตเสื่อมเรื้อรังอาจรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตการป้องกันความเสื่อมและดูแลไตให้แข็งแรงจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจโดยเฉพาะการลดเค็มช่วยให้ไตไม่ต้องทำงานหนักและในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงควรตรวจเช็กกับแพทย์เฉพาะทางเป็นประจำทุกปีหากพบความผิดปกติจะได้รีบรักษาโดยเร็วที่สุด

ลดเค็มลดเสี่ยงโรคไตเรื้อรัง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/298