บริการทำความสะอาด: การทำความสะอาดเพื่อเตรียมพื้นที่และขนย้ายของเข้าบ้านใหม่

[siritidaphon]

บริการทำความสะอาด: การทำความสะอาดเพื่อเตรียมพื้นที่และขนย้ายของเข้าบ้านใหม่

การทำความสะอาดก่อนขนย้ายของเข้าบ้านใหม่ (Move-in Cleaning) มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเริ่มต้นชีวิตในพื้นที่ใหม่ด้วยความสะอาดหมดจดและถูกสุขอนามัยค่ะ ขั้นต

ขั้นตอนที่ 1: การเคลียร์และทำความสะอาดโครงสร้าง (Structural Clean)

ให้ความสำคัญกับส่วนที่เมื่อมีของเข้าแล้วจะทำความสะอาดได้ยาก


1. ทำความสะอาดจากบนลงล่างอย่างละเอียด
เพดาน/ผนัง: ใช้ไม้กวาดหยากไย่ หรือไม้ถูพื้นหุ้มผ้าเช็ดทำความสะอาด ฝุ่นและใยแมงมุม บนเพดานและตามมุมผนัง

โคมไฟ/พัดลม: ถอดหรือเช็ดทำความสะอาดโคมไฟ พัดลมเพดาน และช่องระบายอากาศ (Vent) เพื่อกำจัดฝุ่นที่สะสม

ขอบ/รางหน้าต่าง: ดูดฝุ่น รางหน้าต่าง และ มุ้งลวด อย่างละเอียด เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและคราบสกปรกที่ถูกทิ้งไว้


2. จัดการพื้นผิวที่แข็ง
เช็ดบัวพื้น (Baseboards): เช็ดทำความสะอาด บัวพื้น และ ขอบประตู/ขอบหน้าต่าง อย่างละเอียด เพราะเป็นจุดที่ฝุ่นและคราบสกปรกเกาะแน่น

ทำความสะอาดตู้บิลท์อิน/ชั้นวาง: เช็ดทำความสะอาด ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และ ตู้บิลท์อิน ทั้งหมด เพื่อกำจัดฝุ่นและเชื้อราก่อนใส่เสื้อผ้าหรือของใช้เข้า


ขั้นตอนที่ 2: การฆ่าเชื้อในห้องเปียก (Sanitizing Wet Zones)

ห้องครัวและห้องน้ำต้องได้รับการฆ่าเชื้ออย่างจริงจัง


1. ห้องน้ำ (Bathroom)

ขัดร่องยาแนวและผนัง: ขัดทำความสะอาด ร่องยาแนว บนพื้นและผนังในบริเวณอาบน้ำเพื่อกำจัดเชื้อราและคราบสบู่ที่ฝังแน่น

ฆ่าเชื้อสุขภัณฑ์: ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ โถส้วม อ่างล้างหน้า และ อ่างอาบน้ำ อย่างทั่วถึง รวมถึงบริเวณด้านนอกและฐานของสุขภัณฑ์ด้วย


2. ห้องครัว (Kitchen)

ทำความสะอาดตู้และลิ้นชัก: เช็ดทำความสะอาด ด้านในตู้ครัวและลิ้นชักทั้งหมด ก่อนเก็บจานชามและอุปกรณ์ทำอาหาร

จัดการเครื่องใช้ไฟฟ้า: เช็ด ตู้เย็น (ภายในและภายนอก) เตา และ เครื่องดูดควัน โดยเน้นการกำจัดคราบน้ำมันเหนียว ๆ

ขั้นตอนที่ 3: การจัดการพื้น (Deep Floor Cleaning)
เนื่องจากไม่มีเฟอร์นิเจอร์ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดพื้นอย่างล้ำลึก

ดูดฝุ่นหนัก: ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ทรงพลัง ดูดฝุ่นทุกซอกมุม รวมถึงขอบห้องและใต้ตู้ที่ติดตั้งถาวร

ทำความสะอาดพื้นผิว:

พื้นไม้/กระเบื้อง: ถูพื้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อแน่ใจว่ากำจัดคราบสกปรกและสารเคมีที่ตกค้างออกไปหมดแล้ว

พรม: หากมีพรมปูพื้นแบบติดถาวร ควรพิจารณา จ้างผู้เชี่ยวชาญมาซักพรม เพื่อกำจัดไรฝุ่นและกลิ่นอับที่สะสม


4. เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อความปลอดโปร่ง

เปิดระบายอากาศก่อนเริ่ม: ก่อนเริ่มทำความสะอาด ให้ เปิดหน้าต่างและประตูทุกบาน เพื่อระบายอากาศเก่าที่อับทึบออกไป และเปิดให้อากาศใหม่หมุนเวียนเข้ามา

ฉีดป้องกันแมลง: หากเป็นบ้านที่ไม่ได้รับการดูแลมานาน ควรพิจารณาฉีดสเปรย์ป้องกันแมลงหรือสัตว์รบกวนในมุมอับต่าง ๆ ก่อน ขนของเข้า เพื่อให้สารเคมีมีเวลาออกฤทธิ์และแห้งสนิท

เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดใกล้ตัว: จัดวางอุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นฐาน (เช่น ผ้าเช็ด, สเปรย์) ในจุดที่เข้าถึงง่ายทันทีที่ย้ายเข้า เพื่อให้คุณสามารถทำความสะอาดเล็กน้อยได้ทันทีที่ของเริ่มเข้าที่

การลงทุนทำความสะอาดอย่างละเอียดก่อนขนย้ายของเข้า จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพลังงานในระยะยาวอย่างมากเลยค่ะ