แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 56
1
motor expo 2025: NEW YAMAHA R3 ดีไซน์ใหม่! พร้อมเชื่อมต่อด้วย Y-CONNECT มี 2 สีให้เลือก ในราคา 208,000 บาท

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด รุกตลาดรถสปอร์ตครั้งใหม่! ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถสปอร์ตของเมืองไทยตัวจริง พร้อมส่ง NEW YAMAHA R3… R / WORLD IS CALLING สปอร์ตแท้สายพันธุ์ตระกูล R-Series ขุมพลังเครื่องยนต์ 321 cc เต็มอารมณ์สปอร์ตอีกขั้นด้วยรูปลักษณ์ใหม่! สะท้อนความเป็นซูเปอร์สปอร์ตในทุกองศา ทุกเส้นทาง ทุกช่วงเวลาที่ต้องการ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน Y-CONNECT เชื่อมต่อทุกความเร้าใจ!


NEW YAMAHA R3 มาพร้อมกับลุคใหม่! ที่จะปลุกความเร้าใจในทุกมุมมองไปกับ ไฟหน้า และไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่ ให้ความดุดันเร้าใจสไตล์ R-Series และให้ความสว่างชัดในการขับขี่ พร้อมด้วย ไฟท้ายดีไซน์ ใหม่! สไตล์ R-Series โฉบเฉี่ยวเร้าใจกว่าเดิม

อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสปอร์ต เร้าใจยิ่งขึ้นด้วย หน้าจอมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่! สไตล์ซูเปอร์สปอร์ต แสดงข้อมูลได้อย่างครบถ้วนทุกรายละเอียด พร้อมช่องเสียบ USB - A สำหรับโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  และเพิ่มความเร้าใจครั้งใหม่! ด้วย แอปพลิเคชั่น Y-CONNECT ที่เชื่อมต่อรับรู้ข้อมูลรถและการขับขี่ของคุณผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้อย่างง่ายดาย

NEW YAMAHA R3 ตอบสนองการขับขี่เต็มสมรรถนะด้วย เครื่องยนต์ 321 cc แบบ 2 สูบเรียง 8 วาล์ว ระบบหัวฉีดอัจฉริยะจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยความแม่นยำ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกระบอกสูบไดอะซิล ให้เร้าใจทุกจังหวะการกดคันเร่งในทุกรอบความเร็ว พร้อมให้ความสนุกเร้าใจในทุกจังหวะการขับขี่ด้วยระบบ Assist & Slipper Clutch ช่วยลดแรงกระชากล้อหลังขณะลดเกียร์ ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ด้วย โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ Telescopic Upside Down ที่ช่วยควบคุมการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ และให้ความปลอดภัยในการหยุดรถยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรกดิสก์เบรกพร้อมระบบเบรก ABS ช่วยลดอาการล้อล็อคเมื่อเบรกกะทันหัน


NEW YAMAHA R3 มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สีใหม่ คือ สีน้ำเงิน - ดำ Racing Blue และ สีขาว - น้ำเงิน White Pearl Metallic โดยมาพร้อมกับ Accessories อุปกรณ์ตกแต่งแท้ยามาฮ่าที่มีให้เลือกเสริมแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น ทั้ง ชุดบังลมสีควันบุหรี่, ตัวอุดเฟรม, ฝาปิดแม่ปั้มดิสก์เบรกและ แผ่นเรซินกันฝาถังน้ำมันลายคาร์บอน

สเปค NEW YAMAHA R3

เครื่องยนต์
แบบ   4 จังหวะ 2 สูบ DOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
 
ปริมาตรกระบอกสูบ   321 ซีซี
อัตราส่วนกำลังอัด   11.2 : 1
กระบอกสูบ x ระยะชัก   68.0  x 44.1 มม.
ชนิดหัวเทียน   NGK / LMAR8A-9
ระบบจ่ายน้ำมัน   หัวฉีด
ระบบจุดระเบิด   T.C.I.
ระบบคลัตช์   แบบเปียก ชนิดหลายแผ่น
ระบบสตาร์ท   สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
น้ำมันเชื้อเพลิง   น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว หรือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (E10)
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง    14 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง   2.0 ลิตร (กรณีเปลี่ยนถ่ายตามระยะ), 2.3 ลิตร (กรณีมีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง)
กรองอากาศ   แบบกระดาษเคลือบน้ำมัน
ระบบหล่อลื่น   แบบอ่างน้ำมันเครื่อง
ระบบเกียร์   แบบสปอร์ต 6 ระดับ
ความจุหม้อน้ำ   0.81 ลิตร
ความจุถังพักหม้อน้ำ   0.25 ลิตร
ชนิดกระบอกสูบ   ไดอะซิล
 
โครงรถ
ชนิดของโครงรถ   แบบไดมอนด์
มุมคาสเตอร์/ระยะเทล   25.0° / 95 มม.
กว้าง x ยาว x สูง   730 x 2,090 x 1,140 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ   780 มม.
ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง   160 มม.
ช่วงศูนย์กลางระหว่างล้อ   1,380 มม.
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด   2.9 ม.
น้ำหนัก (รวมน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถัง)   169 กก.
 
ระบบไฟฟ้า
ไฟหน้า   Mono Focus LED
แบตเตอรี่   12 V, 7.0 Ah (10 HR) / GTZ8V (MF)
 
ระบบกันสะเทือน
หน้า   เทเลสโคปิค แบบหัวกลับ
หลัง   สวิงอาร์ม
 
ระบบเบรก-ล้อ
เบรกหน้า-หลัง   ดิสก์เบรก พร้อมระบบ ABS ช่วยลดการเกิดอาการล้อล็อก เมื่อเบรกกะทันหัน ABS (Anti-Lock Brake System)
ล้อหน้า-หลัง   ล้อแม็ก
 
ยางแบบ Tubeless
 
หน้า   110/70 R-17 M/C 54H
หลัง   140/70 R-17 M/C 66H

ฟีเจอร์พิเศษ
Y-Connect   มี
ABS   มี

NEW YAMAHA R3… R / WORLD IS CALLING พร้อมวางจำหน่ายในราคา 208,200 บาท...และตอกย้ำคุณภาพด้วยการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

2
คอนโดติดรถไฟฟ้า เดอะ สเตจ เมดบายมี รัชดา-ห้วยขวาง (THE STAGE made by me Ratchada-Huaikhwang)
เริ่มต้น 2.89 ลบ. 

เดอะ สเตจ เมดบายมี รัชดา-ห้วยขวาง (THE STAGE made by me Ratchada-Huaikhwang)
คอนโดใกล้ MRT ห้วยขวาง เพียง 300 เมตร ใจกลางรัชดา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              เดอะ สเตจ เมดบายมี รัชดา-ห้วยขวาง (THE STAGE made by me Ratchada-Huaikhwang)
 เจ้าของโครงการ         เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์
 แบรนด์ย่อย               เดอะ สเตจ
 ราคา                       เริ่มต้น 2.89 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล              คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด             High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี            1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี             ตั้งแต่ 26.00 ถึง 52.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด              2 ไร่ 1 งาน 62 ตร.ว.
 จำนวนตึก                 1 อาคาร
 จำนวนชั้น                  31 ชั้น
 จำนวนห้อง                454 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค          สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อื่นๆ (Sky Deck, Sky Balcony, Medical Corner, Smart Locker), สวนหย่อม, Co-Working Space

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน             รัชดา, ห้วยขวาง, พระราม 9, เพชรบุรี
 ที่ตั้ง             ถนน ประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 6/1 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:               ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, สถานีบางซื่อ - หัวลำโพง(ห้วยขวาง)


 สถานที่สำคัญใกล้เคียง

ศูนย์การค้า

The Street รัชดา : 1.4 กม.
Big C Extra รัชดา : 1.5 กม.
Esplanade รัชดา : 1.9 กม.
บุญถาวร รัชดา : 2.1 กม.
Makro Food Service เหม่งจ๋าย : 2.2 กม.
Central พระราม 9 : 2.7 กม.
Fortune Town, Lotus’s, Decathlon : 2.9 กม.
Singha Complex : 3.9 กม.
Show DC : 4.7 กม.
Union Mall : 5 กม.
Central ลาดพร้าว : 5.6 กม.

สถานศึกษา

รร.สามเสนนอกประชาราษฎร์อนุกูล : 800 ม.
รร.เตรียมอุดมน้อมเกล้ากุนนที : 800 ม.
รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา : 1 กม.
รร.จันทร์หุ่นบำเพ็ญ : 1.1 กม.
รร.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ : 1.2 กม.
Regent’s International College (RIC) : 1.5 กม.
รร.บางกอกทวิวิทย์ (BBS) : 1.6 กม.
ม.หอการค้าไทย (UTCC) : 1.7 กม.
Prep Montessori International Kindergarten : 1.9 กม.
KIS International School : 2.3 กม.
Regent’s International School Bangkok : 3 กม.
ม.ราชมงคลตะวันออกฯ วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ (RMUTTO) : 3.2 กม.
รร.สุรศักดิ์มนตรี : 3.5 กม.
รร.บีคอนเฮาส์แย้มสอาด ลาดพร้าว (BYS) : 3.9 กม.
Singapore International School of Bangkok (SISB Pracha Uthit) : 3.9 กม.
Lycée Français International de Bangkok (LFIB) : 3.9 กม.
Thai-Japanese Association School (TJAS) : 4 กม.
มศว. (SWU) : 4.4 กม.

ศูนย์การแพทย์

คลินิกทันตกรรมฯ, คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา : 3.7 กม.
รพ.พระราม 9 : 4.1 กม.
รพ.ปิยะเวท : 5.2 กม.
รพ.กรุงเทพ : 6.4 กม.
รพ.เปาโล โชคชัย 4 : 6.7 กม.

3
บริการทำความสะอาด: หลักในการทำความสะอาดบ้านให้น่าอยู่

บ้านเป็นสถานที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่อาศัยพักผ่อนนอนหลับ ให้ความปลอดภัย ความสบายกายและความสบายใจแก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว บ้านแต่ละหลังมีรูปแบบการสร้างที่แตกต่างกันด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ลักษณะของบ้านจะเป็นเช่นไร สมาชิกในบ้านก็สามารถทำให้บ้านน่าอยู่ น่าอาศัยได้ ด้วยการเอาใจใส่ดูแลรักษาทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการทำความสะอาด บ้านให้มีสภาพเรียบร้อย จนเป็นที่สะดุดตาก็สามารถดึงดูดความสนใจให้สมาชิกในครอบครัวไดอยู่อาศัยอย่างมีความสุขมากกว่าบ้านที่ขาดการรักษาความสะอาด


หลักในการทำความสะอาดบ้านให้น่าอยู่

   
การทำความสะอาด

ความสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านน่าอยู่ การทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ดถูเป็นประจำ ทำให้เครื่องเรือนเครื่องใช้ปราศจากความสกปรกแม้แต่บริเวณบ้าน รั้ว สนาม ทางเดินเข้าบ้านสะอาด ร่มรื่น ปราศจากขยะมูลฝอยต่าง ๆ


การสร้างความสะดวกสบาย

จัดแบ่งพื้นที่บริเวณบ้านให้เกิดการใช้สอยที่เป็นสัดส่วน เดินไปมาสะดวกและมีแสงแดดส่องถึง ระบายอากาศได้ดี มีการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกไว้อย่างเหมาะสม สะดวกในการหยิบใช้และการทำกิจกรรมต่าง ๆ


การตกแต่งให้สวยงาม

นอกจากการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ให้เหมาะสมดังที่กล่าวในข้อที่ผ่านมา การจัดตกแต่งให้เป็นระเบียบ ไม่เกะกะ การจัดวางสิ่งของให้เกิดความสมดุล การใช้สี การตกแต่งผ้าม่าน เพื่อให้ดูสบายตาก็สามารถทำให้บ้านสวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้น


การจัดบ้านให้เกิดความปลอดภัย

การจัดบ้านให้มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น มีลูกกรงที่ระเบียงกันพลัดตกบันไดให้แข็งแรง เก็บยา สารเคมีให้พ้นจากมือเด็ก ทำความสะอาดบ้าน บริเวณบ้านให้ปราศจากตะไคร่จับทำให้ลื่นในขณะทำกิจกรรม ปลูกบ้านห่างไกลจากสิ่งปฏิกูลและแหล่งแพร่เชื้อโรคหรือมีวิธีการป้องกันที่ถูกต้องเหมาะสม ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี้ยงได้

   
การวางแผนใช้ทรัพยากรในการทำความสะอาด

ทรัพยากรในการทำความสะอาดที่มีอยู่ภายในบ้าน ควรคำนึงถึงการวางแผนการทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกบ้าน มีดังนี้

    เวลาที่จะใช้ในการทำความสะอาด
    แรงงานที่จะใช้ในการทำความสะอาด
    วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือที่จะใช้ในการทำความสะอาด

การทำความสะอาดทั้งภายในบ้านและบริเวณภายนอกตัวบ้าน จะมีประสิทธิภาพสูงสุด ก็ต่อเมื่อผู้ทำความสะอาดได้วางแผนการทำงานอย่างรอบคอบและรัดกุมลงมือทำงาน ตามแผนที่วางไว้ ตรวจสอบการทำงานและประเมินผลการทำงานในทุกๆงานที่ได้ทำไป ว่าได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่ เพื่อจะได้พิจารณาปรับปรุงทั้งการวางแผนการทำความสะอาดและวิธีการทำงานในคราวต่อไป การวางแผนในการใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดคือการใช้เวลาแรงงานและวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดความสูญเสียทรัพยากรทั้งสามประการที่ไม่จำเป็นลงได้

   
การเลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำความสะอาดบ้าน

อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เรานำมาใช้ในการทำความสะอาดบ้าน ทั้งภายในตัวบ้านและบริเวณภายนอกตัวบ้านนั้น สามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้

    อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการปัดกวาด ได้แก่ ไม้กวาดดอกหญ้า , ไม้กวาดหยากไย่ , ไม้กวาดขนไก่ , เครื่องดูดฝุ่น , ไม้กวาดก้านมะพร้าว , ที่โกยขยะ เป็นต้นฯ
    อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการเช็ด ขัดและถู ได้แก่ ไม้ถูกพื้น , แปรง , ผ้าขี้ริ้ว เป็นต้นฯ

4
บริการทำความสะอาด: ขจัดคราบสกปรกในห้องน้ำ ดูสะอาดเหมือนใหม่

คราบสกปรกในห้องน้ำ สิ่งกวนใจของเหล่าแม่บ้านพ่อบ้านรักความสะอาดด้วยห้องน้ำเป็นห้องที่มีปัจจัยทำให้เกิดคราบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความชื้นภายในห้องคราบสบู่ แชมพู ครีมนวดผม อาจจะทำให้เกิดคราบที่ไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำ


วิธีทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ในห้องน้ำ ให้ดูสะอาดเหมือนใหม่

แถมการขจัดคราบเหล่านี้ก็เป็นเรื่องน่าหนักใจทั้งคราบที่เกิดบนฝาผนัง พื้น หรือบนตัวสุขภัณฑ์ก็ตามโดยเฉพาะกับห้องน้ำคอนโดที่มักจะอยู่ในมุมอับไม่โดนแสงแดดทำให้ห้องน้ำคอนโดมีความอับชื้นเกิดราขึ้นได้ง่าย เพื่อให้ห้องน้ำสะอาดเหมือนตอนที่สร้างเสร็จใหม่ ๆมาเรียนรู้วิธีขจัดคราบสกปรกในห้องน้ำกันค่ะ


วิธีขจัดคราบบนกระเบื้องในห้องน้ำ
กระเบื้องภายในห้องน้ำมีคราบขาวเป็นรอยด่าง ถ้ากระเบื้องเป็นสีเข้มหรือผิวไม่เรียบก็จะยิ่งเห็นคราบสีขาวชัด

วิธีกำจัดคราบ : นำเบกกิ้งโซดามาผสมน้ำส้มสายชูกลั่น 4 : 1 หรือจะใช้น้ำยาขัดห้องน้ำที่อ่านจากฉลากว่ามีส่วนผสมของกรดเกลือเมื่อได้น้ำยาขัดห้องน้ำแล้ว ให้อุดช่องระบายน้ำให้สนิทก่อน แล้วเทน้ำยาขัดห้องน้ำในบริเวณที่เป็นคราบทิ้งไว้ 1 -2 ชั่วโมงจากนั้นให้ใส่ถุงมือและผ้าปิดปากก่อนจะเทน้ำเปล่าลงไปที่พื้นห้องน้ำ แล้วขัดตามปกติถ้าจุดไหนคราบฝังแน่นมาก ก็ให้เทลงเฉพาะจุด ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วค่อยขัดออกขจัดทุกคราบสกปรกในห้องน้ำให้สะอาดเหมือนใหม่

วิธีขจัดคราบเหลืองในห้องน้ำหรือคราบหินปูนในห้องน้ำคราบสีเหลืองในห้องน้ำจะเกิดจากการตกตะกอนของหินปูนเกิดจากเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกที่สะสมในห้องน้ำทำให้ห้องน้ำเขรอะไม่น่ามอง

วิธีกำจัดคราบ : ใช้น้ำส้มสายชูไม่ได้ต้องผสมน้ำไปเทบริเวณที่มีหินปูนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีจากนั้นก็ใช้ปรงขัดพื้นห้องน้ำขัดออก ถ้ายังออกไม่หมดก็ใช้น้ำยาขัดห้องน้ำมาเทซ้ำแล้วขัดอีกทีหรืออีกวิธีให้บีบน้ำมะนาวลงบนคราบหินปูนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีต่อมาก็โรยเบกกิ้งโซดาลงบนเปลือกมะนาว แล้วนำไปขัดบนคราบหินปูน ก็จะทำให้คราบเหลืองหายไป

วิธีขจัดคราบราดำในห้องน้ำ
ราดำในห้องน้ำจะเกิดจากความชื้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริเวณส่วนอาบน้ำ หรือ ห้องน้ำที่ไม่มีการระบายอากาศ อากาศไม่ถ่ายเทและแสงธรรมชาติเข้ามาไม่ได้ เพราะแสงธรรมขาตินั้นจะช่วยฆ่าเชื้อราดำได้

วิธีกำจัดคราบ : ใช้เบกกิ้งโซดามาโรยไว้ให้ทั่วห้องน้ำ ตามรอยต่อของกระเบื้องทิ้งไว้ 5 นาทีจากนั้นก็ใช้น้ำส้มสายชูกลั่น 5% ราดลงไปตามรอยต่อที่มีคราบราดำ ขัดเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันเก่าๆคราบก็จะค่อย ๆ หลุดไป ถ้าทิ้งรอยคราบไว้นานจนฝังลึกอาจจะไม่สะอาดในครั้งแรกจะต้องทำเรื่อย ๆ ทำซ้ำหลายครั้งจุงจะสะอาดไร้รอยยคราบราดำ

วิธีขจัดคราบบนสุขภัณฑ์ต่าง ๆ

การทำความสะอาดก็อกน้ำ ฝักบัว

บริเวณที่เป็นก๊อกน้ำ ฝักบัว สายชำระที่ใช้วัสดุเป็นสีโครเมี่ยม,สเตนเลสหรือทองเหลืองนั้นอาจจะเกิดความหมองจากคราบไขมันของผู้ใช้งานวิธีทำให้กลับมาแวววาวเหมือนเดิม เพียงเช็ดเบา ๆ ด้วยผ้านุ่มที่ชุบน้ำส้มสายชูหรือจะใช้น้ำยาขัดอเนกประสงค์ที่มีขายทั่วไปอย่าง น้ำยาสเตคลีน , บรัสโซ หรือ Stainless steel cleaner ก็ได้


การทำความสะอาดโถส้วม

ส่วนสุขภัณฑ์อย่างโถส้วมที่อาจจะมีคราบเหลืองจากปัสสวะในบริเวณคอห่านทำให้ไม่น่าดูก็สามารถขจัดคราบโถส้วมได้ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาโรยทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วกดน้ำล้างออกจากนั้นก็ใช้กระดาษทราบเบอร์ 800 เพื่อขัดคราบออก หรือถ้าเป็นคราบแน่นฝังตัวก็อาจจะใช้กระดาษทิชชู่ปูบนบริเวณที่มีคราบเหลืองชัดเจนแล้วฉีดน้ำส้มสายชูให้ชุ่มทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วดึงกระดาษทิชชู่ออกก่อนจะขัดคราบด้วยแปรงขัดสุขภัณฑ์อีกที

สำหรับโถส้วมแล้วอย่าลืมทำความสะอาดที่กดชักโครก เพราะเราต้องใช้มือกดชัดโครกทุกวันคงไม่ดีแน่หากมีแบคทีเรียสะสมบนที่กดชักโครก รวมทั้งบริเวณรอบ ๆ โถส้วมอย่างที่ฉีดชำระ ก็จะลืมทำความสะอาดเหมือนกับฝักบัว

ส่วนตรงด้านหลังโถส้วม ก็ให้ทำความสะอาดกระดาษทิชชูจุ่มน้ำ กระดาษทิชชูแบบเปียก หรือผ้าเปียก เช็ดเบา ๆ ไม่ให้มีคราบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ อยู่


การทำความสะอาดคราบบนกระจกเงาหรือกระจกห้องอาบน้ำ

คราบบนกระจกเงาหรือกระจกห้องอาบน้ำ : กระจกเป็นอุปกรณ์ที่ชิ้นที่จะได้รับความสกปรกจากไขมันบนผิวหนังเวลาล้างหน้าหรืออาบน้ำที่จะทำให้กระจกหมองลง


วิธีกำจัดคราบ : นำน้ำสบู่ผสมกับน้ำส้มสายชูแล้วนำผ้านุ่มๆ ชุบบีบให้หมาดเช็ดถูเบาๆ คราบจะลอกออกได้อย่างง่ายดาย พร้อมๆ กับความเงางาม ดูสะอาดเหมือนใหม่


5
หมอออนไลน์: ไข้ปวดข้อยุงลาย/ไข้ชิคุนกุนยา (Chikungunya fever)

ไข้ปวดข้อยุงลาย หรือไข้ชิคุนกุนยา* เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการระบาดได้รวดเร็ว ทำให้มีอาการไข้ ผื่นขึ้น และปวดข้อ ส่วนใหญ่มักจะเป็นไม่รุนแรงและหายได้เอง และไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากอาจทำให้มีอาการปวดข้อเรื้อรัง
 

*ชิคุนกุนยา (Chikungunya) เป็นภาษามากอนดี (แอฟริกา) แปลว่าตัวโค้งงอ เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อมากจนตัวโค้งงอ จึงตั้งชื่อโรคนี้ตามลักษณะอาการของโรค


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา มียุงลายสวน (Aedes albopictus) และยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรค พบระบาดได้รวดเร็วและกว้างขวางซึ่งมักพบในฤดูฝน พบได้ในทุกกลุ่มอายุ พบมากในกลุ่มวัยทำงาน

ระยะฟักตัวของโรค 1-12 วัน (ส่วนใหญ่ 2-3 วัน)

อาการ

ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน (39-40 องศาเซลเซียส) ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย มักมีอาการปวดข้อรุนแรง ตาแดง และมีผื่นแดงเล็ก ๆ คล้ายหัด (พบมากตามลำตัวและแขนขา) ซึ่งมักหายได้เองภายใน 7-10 วัน

บางรายอาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ร่วมด้วย

ไข้มักจะขึ้นสูงตลอดเวลาและเป็นอยู่ประมาณ 2-4 วันก็ทุเลาไปเอง

ส่วนอาการปวดข้อมักจะเป็นตามข้อเล็ก ๆ หลายข้อ (มักเกิน 10 ข้อ) พร้อมกัน หรือมีลักษณะย้ายจากข้อหนึ่งไปยังอีกข้อหนึ่ง บางครั้งพบว่ามีข้ออักเสบบวมแดง ข้อที่พบว่าปวดได้บ่อย ได้แก่ มือ ข้อมือ เท้า และข้อเท้า การกดด้านหน้าของข้อมือทำให้อาการปวดข้อมือรุนแรงมากขึ้น (ซึ่งเป็นลักษณะจำเพาะของโรคนี้) อาการปวดข้อมักเป็นอยู่นาน 1-2 สัปดาห์ ในรายที่เป็นรุนแรงอาจนานเป็นแรมเดือน ทำให้ผู้ป่วยขยับข้อไม่ได้หรือเคลื่อนไหวได้ลำบาก

บางรายเมื่ออาการปวดข้อทุเลาไปแล้วอาจกำเริบได้อีกภายใน 2-3 สัปดาห์ บางรายอาจมีอาการปวดข้อนานเป็นแรมปี


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อยคือ อาการปวดข้อเรื้อรัง ซึ่งอาจทำให้เคลื่อนไหวลำบาก

ส่วนภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ พบได้น้อยมาก เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ประสาทหูอักเสบ จอตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ ไตอักเสบ ตับอักเสบ สมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ กลุ่มอาการกิลเลนบาร์เร เป็นต้น ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้อาจพบในทารกแรกเกิดที่ติดเชื้อจากมารดาขณะอยู่ในครรภ์ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด)

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ และสิ่งตรวจพบดังนี้

    ไข้ 39-40 องศาเซลเซียส
    ตาแดง ผื่นแดงตามตัว 
    ข้ออักเสบ (ปวดบวมแดงร้อน)

หากไม่แน่ใจ แพทย์จะยืนยันการวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือดหาเชื้อ หรือสารภูมิต้านทานต่อเชื้อชนิดนี้


การรักษาโดยแพทย์

ให้การรักษาตามอาการ เช่น พาราเซตามอลบรรเทาไข้ ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์บรรเทาปวดข้อ เป็นต้น ผู้ป่วยมักจะหายได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และไม่พบภาวะเลือดออกรุนแรงหรือภาวะช็อกแบบไข้เลือดออก


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้ ผื่นขึ้น ปวดข้อ หรือมีไข้ในช่วงที่มีคนในละแวกใกล้เคียงเป็นไข้ปวดข้อยุงลาย ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไข้ปวดข้อยุงลาย (ไข้ชิคุนกุนยา) ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    พักผ่อนมาก ๆ ห้ามตรากตรำงานหนักหรือออกกำลังกายมากเกินไป 
    ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยลดไข้ และทดแทนน้ำที่เสียไปเนื่องจากไข้สูง
    ควรกินอาหารอ่อน น้ำข้าว น้ำหวาน น้ำส้ม น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มร้อน ๆ
    ใช้ผ้าชุบน้ำ (ควรใช้น้ำอุ่น หรือน้ำก๊อกธรรมดา อย่าใช้น้ำเย็นจัดหรือน้ำแข็ง) เช็ดตัวเวลามีไข้สูง
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการไข้สูง หนาวสั่นมาก หรือมีไข้นานเกิน 1 สัปดาห์
    มีอาการซึมมาก เบื่ออาหาร อาเจียน หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวตามผิวหนัง
    มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หูตึง ตามัว เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย ดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง) แขนขาอ่อนแรง ชัก เป็นต้น
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ทำลายแหล่งเพาะยุงลายบ้านและยุงลายสวน และหาวิธีป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด (ดูหัวข้อ "การป้องกัน ในโรคไข้เลือดออก" เพิ่มเติม)

ข้อแนะนำ

1. การวินิจฉัยไข้ปวดข้อยุงลาย อาศัยลักษณะอาการแสดงของโรคเป็นหลัก ได้แก่ อาการไข้สูง ปวดข้อ มีผื่นแดง หากจำเป็นต้องยืนยันให้แน่ชัด อาจจำเป็นต้องตรวจเลือดหาสารภูมิต้านทานต่อไวรัสชิคุนกุนยา หรือตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสชนิดนี้

2. โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เองและไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด) หากเป็นโรคนี้ควรเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดตามมาได้

3. โรคนี้อาจพบระบาดในชุมชน (จากการมียุงลายบ้านเป็นพาหะของโรคนี้ รวมทั้งไข้เลือดออก และไข้ซิกา) และในแหล่งที่มีการทำสวน (เช่น สวนยาง ซึ่งมียุงลายสวนเป็นพาหะของโรคนี้) 

4. ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา มักจะไม่เป็นซ้ำอีก แต่อาจเป็นไข้เลือดออก หรือไข้ซิกาได้ เนื่องจากเกิดจากเชื้อไวรัสคนละชนิดกัน และมียุงลายบ้านเป็นพาหะเช่นเดียวกัน

5. ไข้ปวดข้อยุงลาย มักมีอาการไข้สูง มีผื่นแดงตามตัว และปวดข้อเป็นสำคัญ แต่ในบางรายอาจมีจุดแดง (จุดเลือดออกเล็ก ๆ) ตามผิวหนัง การทดสอบทูร์นิเคต์อาจให้ผลบวก และการตรวจนับจำนวนเกล็ดเลือดอาจพบว่าต่ำ (แต่จะต่ำกว่าปกติเล็กน้อย ไม่มากเท่าไข้เลือดออก) ซึ่งมีลักษณะคล้ายไข้เลือดออกระยะแรก แต่ต่างกันตรงที่ไข้ปวดข้อยุงลายมักจะมีอาการข้ออักเสบ (ปวดข้อ ข้อบวมแดงร้อน) ร่วมด้วย มักมีไข้สูงอยู่เพียงประมาณ 2-4 วันก็ทุเลาไปเอง หลังจากไข้ลงแล้ว อาจมีอาการข้ออักเสบเรื้อรัง ในขณะที่ไข้เลือดออกมักมีไข้มากกว่า 4-7 วัน อาจมีอาการปวดท้อง อาเจียน ตับโตร่วมด้วย และอาจมีภาวะเลือดออกหรือภาวะช็อกตามมาได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีไข้สูงในระยะแรก ๆ ยังไม่ได้วินิจฉัยให้แน่ชัดด้วยการตรวจเลือดหาเชื้อต้นเหตุว่าเป็นไข้เลือดออกหรือไข้ปวดข้อยุงลาย จึงควรติดตามสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง (เช่น เกิดภาวะช็อก หรือมีเลือดออก) หรือสงสัยเป็นไข้เลือดออก ก็ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว

6
หมอออนไลน์: ขี้หูอุดตันรูหู (Wax blockage/Impacted cerumen)

ขี้หูเกิดจากการรวมตัวของสารที่ขับจากต่อมขี้หูและต่อมไขมันที่อยู่ในช่องหูชั้นนอก เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่รูหู ป้องกันการติดเชื้อและป้องกันแมลงมิให้เข้าใกล้หูหรือเข้าไปในช่องหู

ลักษณะและปริมาณของขี้หูแต่ละคนมีความแตกต่างกัน

โดยธรรมชาติขี้หูจะถูกผลักดันออกสู่นอกช่องหูวันละน้อย โดยการเคลื่อนตัวของเซลล์ผิวหนังชั้นผิวที่ปกคลุมหูชั้นนอกอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแคะ เขี่ย หรือล้างทำความสะอาดแต่อย่างใด

สาเหตุ

การอุดตันของรูหูเกิดจากการแคะหรือการทำความสะอาดบ่อยเกินไป เกิดการระคายเคืองหรือการอักเสบ กระตุ้นให้ต่อมขี้หูสร้างขี้หูมากขึ้น และมีการสะสมของขี้หูเป็นก้อนแข็งจนอุดตันรูหูได้

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการหูอื้อ มักเป็นเพียงข้างเดียว ซึ่งเกิดขึ้นฉับพลันหลังว่ายน้ำ อาบน้ำ หรือสระผม เนื่องจากขี้หูที่สะสมอยู่อุ้มน้ำที่เข้าไปในช่องหู จนก้อนขี้หูพองตัว อัดแน่นช่องหู

บางรายมีความรู้สึกเหมือนมีน้ำค้างอยู่ในหูตลอดเวลา พยายามเอาไม้พันสำลีเช็ดออก แต่ยิ่งเช็ดก็กลับยิ่งอื้อ เพราะมักจะดันขี้หูเข้าลึกและอัดแน่นยิ่งขึ้น บางรายอาจมีอาการปวดหูหรือวิงเวียนร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

หากมีการแคะหูจนเกิดแผลถลอก ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ทำให้หูชั้นนอกอักเสบได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ สิ่งตรวจพบ และการใช้เครื่องส่องหูตรวจดู จะพบขี้หูอุดเต็มรูหูจนมองไม่เห็นเยื่อแก้วหู เพราะถูกขี้หูบังไว้


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าส่องไฟดูหูแล้ว เห็นขี้หูค่อนข้างหลวม ไม่แน่นมาก แพทย์จะใช้ห่วงแคะหูหรือตะขอแคะขี้หูที่สะอาด ค่อย ๆ เขี่ยขี้หูออก

2. ถ้าเขี่ยไม่ออกหรือขี้หูแข็งจะใช้น้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำสะอาดผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตที่มีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ฉีดล้างออก (หลีกเลี่ยงการใช้น้ำที่มีอุณหภูมิต่ำหรือสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส อาจกระตุ้นให้เกิดอาการวิงเวียนได้) หรืออาจให้ผู้ป่วยใช้ยาละลายขี้หู หยอดหูบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ นาน 3-5 วันก่อน แล้วค่อยใช้น้ำหรือน้ำเกลือฉีดล้างออก หรือใช้เครื่องมือช่วยนำเอาขี้หูออก

3. ถ้ามีการติดเชื้ออักเสบ จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะแบบเดียวกับหูชั้นนอกอักเสบ


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการหูอื้อ หรือรู้สึกเหมือนมีน้ำค้างอยู่ในหูตลอดเวลานานเป็นวัน ๆ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นขี้หูอุดตันรูหู ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการไข้ ปวดหูมากขึ้น หรือหูน้ำหนวกไหล
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

แนะนำให้ผู้ป่วยเลิกนิสัยการแคะหู ล้างหู และไม่ควรใช้ไม้พันสำลีเช็ดหรือปั่นหูเป็นประจำ นอกจากจะไม่มีประโยชน์เท่าที่ควรแล้ว ยังอาจกระตุ้นให้เกิดขี้หูมากจนอุดตันรูหูได้

ข้อแนะนำ

หากมีอาการหูอื้อหรือรู้สึกเหมือนมีน้ำเข้าหู ซึ่งเกิดขึ้นฉับพลันหลังว่ายน้ำ อาบน้ำ หรือสระผม

หากสงสัยว่าเกิดจากมีน้ำเข้าหูให้ลองตะแคงหูข้างที่มีอาการลงด้านล่าง แล้วเคาะที่ศีรษะเบา ๆ เพื่อให้น้ำระบายออกจากหู (ไม่ให้ใช้ไม้พันสำลีแยงหูเพื่อซับน้ำ อาจทำให้เกิดแผลถลอก หรืออาจดันให้ขี้หูเข้าลึกและอัดแน่นยิ่งขึ้นได้หากเกิดจากมีขี้หูอุดตันรูหู) ถ้าอาการหูอื้อไม่หายนานเป็นวัน ๆ หรือสงสัยว่าเกิดจากขี้หูอุดตันรูหู ควรปรึกษาแพทย์

7
mobile expo 2025 GoPro HERO13 Black เปิดตัวสุดยิ่งใหญ่!!! อาร์ทีบีฯ ผนึกกำลัง Big Camera และ GoPro จัดกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ ‘GoPro...Go Pro Creators’

กระแสตอบล้นหลามสำหรับการเปิดตัวกล้องแอคชั่นแคมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง GoPro HERO13 Black และ GoPro HERO ในประเทศไทย ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแก็ดเจ็ตรายใหญ่ในประเทศไทย จับมือ Big Camera และ GoPro ในการจัดกิจกรรม "GoPro…Go Pro Creators! Powered by GoPro x Big Camera x RTB" งานที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความสนุกสนานสำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ

งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และ KOL ชั้นนำจากวงการถ่ายภาพเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ น้าโอ๋ เจ้าสำนักป้ายยา, คุณใหญ่-กฤดา เสพมงคลเลิศ จากเพจ SnapTech Zone, คุณเบียร์-ศรชัย จิ๋วประชา จากเพจช่างภาพชื่อดังฐานะร่ำรวย, คุณเฟิร์ส-นราธิป จาก The Peak Foto, คุณโย-โยชูวา จาก Creator School Thailand, คุณบอนด์ บดินทร์ จาก พ่อสอนลูกให้ถ่ายรูป, คุณจ๊อบ-เจตวิชาญ เชาวน์ดี, คุณแมน-พินิจจนันท์ บัวมหาศักดิ์ จากเพจ ไทยเรสซิ่ง-ThaiRacing, คุณเกมส์ จากเพจ Itsara: อิสระ, คุณเท็น จากเพจ Ten Can Fly, คุณไอซ์ แห่ง iicett, คุณนนท์ Jinnapat Plabnin มู้ดดีรับถ่ายภาพ และ คุณหนุ่ม แห่ง Skateway Life และอีกหลายท่าน ที่มาร่วมทดสอบการใช้งาน GoPro HERO13 Black ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น Ultra Wide และ Macro Lens ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพ, ระบบกันสั่น HyperSmooth, แบตเตอรี่ Enduro ที่บันทึกวิดีโอความละเอียด 5.3K ได้นานถึง 1.5 ชั่วโมง และ Magnetic Latch Mount ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
ภายในงานยังมีการสาธิตการใช้งานกล้องจากเหล่า KOL พร้อมแบ่งปันเทคนิคการถ่ายภาพที่น่าประทับใจในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสและทดลองใช้เทคโนโลยีล่าสุดของ GoPro ในสถานการณ์จริงได้เป็นอย่างสมบูรณ์แบบ

คุณเบียร์-ศรชัย จิ๋วประชา เจ้าของเพจช่างภาพชื่อดังฐานะร่ำรวย กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากได้ทดลองใช้ GoPro HERO13 Black  “ด้วยความสามารถของ GoPro HERO13 Black ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ช่วยให้การทำงานยืดหยุ่นขึ้น เราสามารถใช้ได้ทั้งมาโครกลบจุดด้อยของกล้องแอคชั่นแคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งกล้องแอคชั่นแคมหลายๆตัวทำไม่ได้ สำหรับผมพกตัวนี้ตัวเดียวจบ”

นอกจาก GoPro HERO13 Black แล้ว ยังมี GoPro HERO รุ่นเล็กน้ำหนักเบาเพียง 86 กรัม รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และภาพนิ่งความละเอียด 12MP พร้อมระบบกันสั่นและกันน้ำลึกได้ถึง 5 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและต้องการกล้องที่คล่องตัว

8
คอนโดติดรถไฟฟ้า แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ (ASPIRE Vibha-Victory)
เริ่มต้น 3.49 ลบ.

แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ (ASPIRE Vibha-Victory)
คอนโดใหม่! บนทำเลฮอตใกล้ "อนุสาวรีย์ชัยฯ" เชื่อมต่อ "วิภาวดี-รังสิต" ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน เดินทางสะดวกสบายด้วยรูปแบบการเดินทางหลากหลาย ทั้ง รถไฟฟ้าBTS แอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ และรถยนต์ส่วนตัว ใจกลางแหล่งไลฟ์สไตล์มากมายตอบทุกรูปแบบในการใช้ชีวิต ใกล้ทั้ง ห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศ โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่ราชการ

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                  แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ (ASPIRE Vibha-Victory)
 เจ้าของโครงการ             เอพี (ไทยแลนด์)
 แบรนด์ย่อย                   แอสปาย
 ราคา                          เริ่มต้น 3.49 ลบ.
 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ความสูงคอนโด             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะกรรมสิทธิ์          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ขนาดห้องที่มี               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 เนื้อที่ทั้งหมด                โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนตึก                   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนชั้น                   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้อง                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ที่จอดรถทั้งหมด           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน            รัชดา, ห้วยขวาง, พระราม 9, เพชรบุรี
 ที่ตั้ง            ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
อนุสาวรีย์ชัยฯ
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
รพ.รามาธิบดี
รพ.พระมงกุฎเกล้า
รพ.ราชวิถี

9
ฟรีแลนซ์โพสต์ฟรี / ตรวจโรคหูด (Warts)
« เมื่อ: วันที่ 18 พฤษภาคม 2025, 20:30:14 น. »
ตรวจโรคหูด (Warts)

หูด เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (benign) ของผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในเด็กวัยเรียน ในผู้ใหญ่ก็เป็นได้ แต่จะพบได้น้อยในคนอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป

หูดมีหลายชนิด อาจมีขนาดแตกต่างกันไป ขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น อาจขึ้นเดี่ยว ๆ หรือหลายอันก็ได้ มักขึ้นที่มือ เท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า ฝ่ามือฝ่าเท้า อาจขึ้นตามผิวหนังส่วนอื่น ๆ รวมทั้งที่อวัยวะเพศ

ส่วนมากจะยุบหายได้เองตามธรรมชาติ (แม้จะไม่ได้รับการรักษา) ภายหลังที่เป็นอยู่หลายเดือน บางรายอาจเป็นอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะยุบหาย เมื่อหายแล้วอาจกลับเป็นใหม่ได้อีก

สำหรับหูดที่อวัยวะเพศขอแยกกล่าวไว้ใน "โรคหงอนไก่"

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอชพีวี (HPV ซึ่งย่อมาจาก human papilloma virus) ซึ่งมีมากกว่า 70 ชนิด เมื่อเชื้อไวรัสแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ผิวหนังก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหูดงอกออกจากผิวหนังส่วนที่ปกติ

หูดสามารถติดต่อโดยการสัมผัสถูกคนที่เป็นหูดโดยตรง ผิวหนังที่มีบาดแผลหรือรอยถลอกจะติดเชื้อและกลายเป็นหูดได้ง่ายกว่าผิวที่ปกติ ระยะฟักตัว 2-18 เดือน

อาการ

หูดธรรมดา (common warts) จะมีลักษณะเป็นตุ่มกลมแข็ง ผิวหยาบ ออกเป็นสีเทา ๆ เหลือง ๆ หรือน้ำตาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-10 มม. มักจะขึ้นตรงบริเวณที่ถูกเสียดสีง่าย (เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก ข้อเข่า ใบหน้า หนังศีรษะ เป็นต้น) และอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

หูดที่เป็นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะมีลักษณะเป็นไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่จะแบนราบเท่าระดับผิวหนังที่ปกติ เพราะมีแรงกดขณะเดินหรือใช้งาน ลักษณะคล้าย ๆ ตาปลา แต่จะแยกกันได้ตรงที่ถ้าใช้ใบมีดฝานหูดบริเวณผิวบน ๆ ของหูดจะเห็นมีจุดดำ ซึ่งเป็นจุดเลือดออกเก่า ๆ ที่แข็งตัวแล้ว

หูดที่เป็นติ่ง (filiform warts) จะมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อแข็งยาวคล้ายนิ้วมือเล็ก ๆ ยื่นจากผิวหนัง มักขึ้นที่หนังตา ใบหน้า ลำคอ หรือริมฝีปาก


ภาวะแทรกซ้อน

หูดเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากทำให้แลดูน่าเกลียดน่ารำคาญ หรืออาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นปมด้อย ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง   

บางรายอาจมีอาการปวดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหูดที่ฝ่าเท้า เวลาเดินลงน้ำหนักแรง ๆ อาจทำให้ปวดเดินไม่ถนัดได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยจากการตรวจพบรอยโรค และการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ


การรักษาโดยแพทย์

ในรายที่มีอาการเล็กน้อย จะให้สังเกตดูอาการ บางรายอาจหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็อาจเกิดขึ้นใหม่ได้อีก

  ในรายที่มีอาการมาก รู้สึกรำคาญน่าเกลียด หรือเจ็บปวด แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. หูดที่ฝ่าเท้า ใช้ปลาสเตอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกชนิด 40% ปิด โดยฝานหูดจนมีเลือดซิบ แล้วใช้ปลาสเตอร์ดังกล่าวปิด พอครบ 1 สัปดาห์ก็ทำการฝานหูดซ้ำอีกครั้ง แล้วปิดปลาสเตอร์ต่อไป ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์จนกว่าจะหาย หรืออาจใช้ยากัดตาปลาหรือหูดซึ่งมีกรดซาลิไซลิกผสมทาที่ตัวหูดทุกวัน ยาจะค่อย ๆ กัดเนื้อหูดให้หลุดออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

2. หูดที่เป็นติ่ง ให้พ่นด้วยยาชา แล้วใช้กรรไกรตัด หรือใช้ไฟฟ้าจี้และขูดออก (electrodessication)

3. หูดที่เป็นตุ่มหรือไตขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการผ่าตัดและขูดออก (อาจใช้ไฟฟ้าจี้ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้) ซึ่งอาจใช้เวลา 4 สัปดาห์กว่าแผลจะหายดี หรือไม่ก็อาจรักษาโดยใช้กรดซาลิไซลิกชนิด 10% และกรดแล็กติกชนิด 10% ในคอลลอยเดียนเบสทา หรือทาด้วยกรดไตรคลอโรอะซิติก (trichloroacetic acid) ชนิด 30-50%

หรือใช้ไนโตรเจนเหลว (liquid nitrogen) หรือคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง (solid CO2) ในการรักษาหูด โดยจี้ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน หรือใช้แสงเลเซอร์หรือเครื่องจี้ไฟฟ้าในการรักษา

ในรายที่ดื้อต่อการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว แพทย์อาจให้การรักษาโดยให้ผู้ป่วยกินไซเมทิดีนในขนาดสูง (30-40 มก./กก./วัน) ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยให้นาน 6-8 สัปดาห์ จะช่วยให้หูดยุบหายหมดได้ประมาณร้อยละ 60-70

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น ผิวหนังมีตุ่มแข็งหรือมีติ่งเนื้อแข็งยื่นจากผิวหนัง หรือฝ่ามือฝ่าเท้ามีไตแข็ง ๆ หยาบ ๆ แต่แบนราบ ควรปรึกษาแพทย์

          เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหูด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    หลังการรักษาแล้วหากมีอาการปวด แสบ คัน พุเป็นตุ่มน้ำ หรือบวมที่บริเวณรอยโรคไม่ทุเลา ใน 1-2 สัปดาห์
    มีหูดเกิดขึ้นใหม่

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกเนื้อหูดของผู้อื่น
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า) ร่วมกับคนที่เป็นหูด
    ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อหูดไปบริเวณอื่นของร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือแกะเกาหูดของตัวเอง และเมื่อสัมผัสถูกหูดควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่เมื่อสัมผัสทันที
    หมั่นล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง และเปลี่ยนถุงเท้าที่ใส่ทุกวันเพื่อป้องกันหูดที่ฝ่าเท้า
    ระมัดระวังอย่าให้เกิดบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น ระมัดระวังการโกนหนวด หลีกเลี่ยงการกัดแทะเล็บเป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อหูดเข้าทางบาดแผล
    หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารครบ 5 หมู่ที่สมสัดส่วน  และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

ข้อแนะนำ

หูดเกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสและทางเพศสัมพันธ์ ไม่มีการรักษาที่จำเพาะ (ไม่มียาที่ทำลายเชื้อไวรัสกลุ่มนี้) ส่วนใหญ่มักเป็นไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2 ปี แต่อาจเกิดขึ้นได้ใหม่ การรักษาสุขภาพให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงมีส่วนป้องกันและรักษาโรคนี้ได้ การรักษามุ่งที่ทำลายเนื้อหูดให้หมดไปด้วยวิธีต่าง ๆ ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามสภาพของโรคที่เป็น และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

10
วิธีเลือกหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัยในช่วง COVID-19

ผู้คนในสังคมตระหนักถึงการใส่หน้ากากอนามัยหรือการใช้เจลแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสกันมากขึ้น เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ติดต่อกันได้ง่ายและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

การใส่หน้ากากอนามัยเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกายทางปากหรือจมูกโดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรค ทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง จึงมีการผลิตและจำหน่ายหน้ากากอนามัยในรูปแบบที่หลากหลายจนอาจก่อให้เกิดความสับสนได้ บทความนี้จึงจะชวนมารู้จักชนิดของหน้ากากอนามัยและวิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องกัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายและการติดเชื้อของโควิด-19   

ความสำคัญของหน้ากากอนามัยในการป้องกัน COVID-19

COVID-19 เป็นโรคที่มีการแพร่กระจายเชื้อคล้ายกับเชื้อไวรัสไข้หวัดหรือเชื้อไรโนไวรัส (Rhinovirus) นั่นคือ แพร่กระจายผ่านละอองขนาดเล็กในอากาศจากการไอหรือจาม ยิ่งมีการแพร่กระจายผ่านละอองในพื้นที่ปิดอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ หน้ากากอนามัยจึงมีส่วนสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อผ่านละอองฝอย โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อหรือมีอาการป่วยจากเชื้อไวรัส ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ที่ทำงานอยู่ในสถานพยาบาล หรือผู้ที่จำเป็นจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถือเป็นผู้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอเพื่อป้องกันการรับเชื้อจากบุคคลอื่น


หน้ากากอนามัยแบบไหนช่วยป้องกัน COVID-19

จากผลการศึกษาพบว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เป็นสาเหตุของโรค COVID-19 สามารถแพร่กระจายได้ก่อนจะมีการแสดงอาการ ซึ่งการแพร่ของเชื้อกระจายที่เกิดขึ้นในสังคมสามารถลดลงได้หากทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยแม้ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการป่วยก็ตาม

ปัจจุบันหน้ากากอนามัยที่วางขายทั่วไปมี 3 ประเภทหลัก คือ หน้ากากอนามัยแบบผ้า หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และหน้ากากอนามัย N95


หน้ากากอนามัยแบบผ้า

หน้ากากอนามัยประเภทนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้เล็กน้อย โดยจะตัดเย็บมาจากผ้า จึงสามารถซักทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้ สำหรับผ้าที่เหมาะสมต่อการนำมาทำหน้ากากอนามัยควรเป็นผ้าที่ถักทออย่างหนาแน่น ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการป้องกันที่ค่อนข้างดีกว่าผ้ากันลมหรือผ้าปิดปากทั่วไป

จากการศึกษาของทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า ผ้านาโน ผ้าฝ้ายดิบ และผ้าฝ้ายมัสลินนั้นเหมาะในการทำหน้ากากอนามัยแบบผ้า เนื่องจากมีคุณสมบัติใกล้เคียงหน้ากากอนามัยทางการแพทย์หากนำผ้ามาประกอบกัน 2 ชั้น อีกทั้งยังป้องกันการซึมผ่านของละอองน้ำ นำไปซักได้หลายครั้ง และหาได้ง่ายทั่วไป

หน้ากากอนามัยแบบผ้าจึงเหมาะกับคนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วยหรือผู้ที่ไม่ได้ทำงานในสถานพยาบาล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าบุคลากรทางการแพทย์ ทางศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้แนะนำให้มีการใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่ยากต่อการระมัดระวัง เช่น ร้านค้า ศูนย์การค้า หรือสถานที่มีคนหนาแน่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค COVID-19

หน้ากากอนามัยทางการแพทย์

หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เป็นชนิดที่คนที่นิยมใช้มากที่สุด โดยจะประกอบไปด้วย 3 ชั้น ชั้นนอกสุดช่วยป้องกันน้ำ เลือด หรือของเหลวอื่น ๆ ส่วนชั้นกลางช่วยป้องกันละอองเชื้อโรคที่มาพร้อมกับน้ำมูก น้ำลายจากการไอหรือจามและเป็นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน และชั้นในสุดจะช่วยซึบซับความชื้นหรือเหงื่อที่ปล่อยออกมา แต่หน้ากากชนิดนี้ไม่สามารถกรองละอองขนาดเล็กหรือสารปนเปื้อนที่อาจเข้ามาได้จากช่องว่างบริเวณด้านล่างของหน้ากากอนามัย

แม้ว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้โดยตรง แต่ด้วยขนาดของไวรัสที่เล็กมากและไม่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้เอง จำเป็นจะต้องติดไปกับพาหะถึงจะแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ เมื่อไวรัสเกาะรวมละอองแล้วทำให้ขนาดอนุภาคมีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน การใส่แผ่นกรองของหน้ากากอนามัยทางการแพทย์อีกชั้นจะช่วยป้องกันได้

โดยแผ่นกรองของหน้ากากอนามัยทางการแพทย์สามารถป้องกันสารคัดหลั่งที่มีละอองขนาดใหญ่ อย่างละอองจากการไอ จาม ละอองสเปรย์ หรือของเหลวอื่น ๆ ที่อาจมีเชื้อโรคปะปนเข้าสู่ร่างกายทางปากหรือจมูก แต่จำเป็นจะต้องมีการสวมใส่อย่างมิดชิดเพื่อป้องกันการรั่วไหลของละอองหรือการรับละอองเข้าสู่ร่างกายผ่านทางช่องว่างของหน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัย N95

หน้ากาก N95 มีลักษณะเป็นทรงกลมหรือรูปไข่ ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้าได้ดีกับรูปหน้า มีสายรัดที่ช่วยให้กระชับ บางรูปแบบอาจมีช่องอากาศ (Exhalation Valve) ช่วยในการหายใจ ลดความร้อนและความชื้นภายในหน้ากาก โดยหน้ากากประเภทนี้มีแผ่นกรองความละเอียดสูง สามารถป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีขนาด 0.12 ไมครอน

อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐไม่แนะนำให้คนทั่วไปใช้หน้ากากอนามัยชนิดนี้นอกสถานพยาบาล เนื่องจากหน้ากากอนามัย N95 ให้ความรู้สึกแน่นเกินไปเมื่อใส่ในเวลานานและไม่สามารถระบายอากาศได้สะดวก อีกทั้งไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันที่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์และหน้ากากอนามัย N95 มีอยู่อย่างจำกัด จึงควรที่จะให้แพทย์ พยาบาล และผู้ที่ทำงานในสถานพยาบาลสามารถเข้าถึงทรัพยากรดังกล่าวได้เป็นอันดับแรก


วิธีใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องและปลอดภัย

เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ควรทำตามขั้นตอนการใส่และถอดหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง ดังนี้

    ก่อนการใส่หน้ากากอนามัย ควรทำความสะอาดมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดเสียก่อน หากไม่สามารถล้างมือด้วยน้ำได้ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมปริมาณของแอลกอฮอล์มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ทดแทนได้ โดยชโลมให้ทั่วมือและถูจนกว่าจะแห้ง
    การใส่หน้ากากอนามัยควรต้องคลุมปากหรือจมูก เพื่อป้องกันการรับหรือแพร่เชื้อผ่านการไอหรือจาม
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้ากากอนามัยขณะกำลังสวมใส่ หากต้องสัมผัสโดน ควรทำความสะอาดมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์

    เปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทันทีที่เกิดความชื้นหรือโดนสารคัดหลั่งต่าง ๆ เนื่องจากประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
    การถอดหน้ากากอนามัยควรถอดจากด้านหลังหรือสายคล้อง ห้ามสัมผัสด้านหน้าของหน้ากากอนามัยโดยตรง หลังจากนั้นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์
    หลังการใช้หน้ากากอนามัย หากเป็นหน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวให้ทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ส่วนหน้ากากอนามัยแบบผ้าควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้ด้วยสบู่และน้ำร้อน จากนั้นตากในอุณหภูมิที่ร้อนจัดให้แห้ง ก่อนจะนำไปเก็บอย่างมิดชิด หากพบว่าหน้ากากอนามัยชำรุดเสียหาย ควรทิ้งทันที

 นอกเหนือจากการใส่และทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี จำเป็นจะต้องล้างมือให้สะอาดและเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ไปพร้อมกัน เพื่อการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

11
เมื่อจัดฟันเด็ก ควรใช้แปรและยาสีฟันแบบไหน

เมื่อเด็กจัดฟัน การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันฟันผุ เหงือกอักเสบ และคราบพลัคสะสมรอบเครื่องมือจัดฟัน ควรเลือกใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันที่ออกแบบมาสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ ดังนี้

แปรงสีฟันสำหรับเด็กจัดฟัน:

แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ: แปรงเหล่านี้มักมีลักษณะขนแปรงที่ออกแบบมาให้หลีกเลี่ยงเครื่องมือจัดฟัน และทำความสะอาดรอบๆ เหล็กจัดฟันและลวดได้ดีขึ้น บางยี่ห้อมีขนแปรงตรงกลางสั้นกว่าด้านข้าง หรือมีลักษณะเป็นร่องตัววี (V-shape)
แปรงสีฟันไฟฟ้าสำหรับคนจัดฟัน: แปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดี โดยเฉพาะรุ่นที่มีหัวแปรงขนาดเล็กและสามารถเข้าถึงซอกมุมต่างๆ ได้ง่าย
แปรงซอกฟัน (Interdental brush): เป็นแปรงขนาดเล็ก หัวเรียวแหลม ใช้สอดเข้าไปทำความสะอาดระหว่างฟันและใต้ลวดจัดฟัน
แปรงกระจุก (End-tuft brush): มีหัวแปรงขนาดเล็ก กระจุกเดียว เหมาะสำหรับทำความสะอาดบริเวณรอบๆ แบร็กเก็ต (Brackets) และฟันซี่ในสุดที่เข้าถึงยาก


ยาสีฟันสำหรับเด็กจัดฟัน:

ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์: ฟลูออไรด์มีความสำคัญในการป้องกันฟันผุ ซึ่งเด็กที่จัดฟันมีความเสี่ยงฟันผุสูงกว่าคนทั่วไป ควรเลือกยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมสำหรับเด็กตามวัย
ยาสีฟันที่มีส่วนผสมช่วยลดคราบพลัคและแบคทีเรีย: บางยาสีฟันมีส่วนผสมเพิ่มเติมที่ช่วยลดการสะสมของคราบพลัคและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่จัดฟัน
ยาสีฟันที่มีความอ่อนโยน: ควรเลือกยาสีฟันที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปาก


คำแนะนำเพิ่มเติม:

ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน: ทันตแพทย์จัดฟันจะสามารถแนะนำแปรงสีฟันและยาสีฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องมือจัดฟันและสภาพช่องปาก

แปรงฟันอย่างถูกวิธี: สอนเด็กให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน โดยเน้นการแปรงบริเวณรอบๆ เครื่องมือจัดฟันและซอกฟันให้สะอาดทั่วถึง ใช้เวลาแปรงประมาณ 2-3 นาที

ใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน: ไหมขัดฟันชนิดพิเศษสำหรับคนจัดฟัน (Superfloss) หรือไหมขัดฟันที่มีที่สอด จะช่วยทำความสะอาดบริเวณใต้ลวดจัดฟันได้ง่ายขึ้น

ใช้น้ำยาบ้วนปาก: น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟันและลดการสะสมของแบคทีเรียได้
พบทันตแพทย์ตามนัดหมาย: การตรวจสุขภาพช่องปากและทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์เป็นประจำทุก 3-6 เดือน มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กที่จัดฟัน

การดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีระหว่างการจัดฟันจะช่วยให้การจัดฟันเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยไม่มีปัญหาฟันผุหรือเหงือกอักเสบตามมา

12
ถ้าเด็กไม่ชินกับเครื่องมือจัดฟันเด็ก EF LINE ควรทำอย่างไร

การรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เด็กควรที่จะแปรงฟันให้ถูกวิธีและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะใส่ใจในเรื่องของโภชนาการของเด็กด้วย เพื่อที่ให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพตามมา นอกจากนี้ พฤติกรรมที่มีความผิดปกติของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่สอดส่องดูแลเพื่อให้เด็กได้ลดพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการดูดนิ้ว พฤติกรรมการดูดขวดนม ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของเด็กในวัยนี้ แต่ถ้าหากเด็กยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าวอาจทำให้ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้

ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันการสบฟันที่ผิดปกติหรือกล้ามเนื้อโครงสร้างบริเวณใบหน้าทำงานผิดปกติ เด็กก็ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็กโดยใช้เครื่องมือ EF LINE ซึ่งในปัจจุบัน ทางทันตกรรมได้พบว่ากล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ดังนั้น จึงมีการออกแบบเครื่องมือเพื่อทำการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้อง โดยเครื่องมือดังกล่าวเรียกว่า EF line โดยสามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 -15 ปี โดยเครื่องมือในกลุ่มนี้มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า ซึ่งสามารถแก้ไขได้ แต่เด็กที่ได้ผ่านการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือกำลังเริ่มที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE พ่อแม่หลายคนกังวลว่า การสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ของเด็กนั้น จะส่งอันตรายต่อเด็กหรือไม่ วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาสำหรับเด็กที่มีอาการผิดปกติหรืออาจจะยังไม่ชินกับเครื่องมือ EF LINE ว่า พ่อแม่ควรจะรับมืออย่างไร

สำหรับเครื่องมือ EF line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต โดยเด็กจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำ หรือใส่ คือ ตอนกลางคืนเวลานอนหลับ 10 ชม. เวลากลางวัน 2 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างใส่กลางวัน โดยพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมอยู่ตลอด เวลาที่เด็กใส่เครื่องมือ EF LINE โดยควรให้เด็กใส่เครื่องมืออยู่นิ่งๆ ไม่เคี้ยวเล่น ไม่พูด ปากปิดสนิทเพื่อเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบปาก ให้เด็กดื่มน้ำมากเพิ่มความชุ่มชื้นในช่องปากของเด็ก หากมีอาการระคายเคืองบางตำเเหน่ง ใช้ยาทาเเผลในปาก โดยทาตรงบริเวณที่เจ็บเพื่อบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตาม การสวมใส่เครื่องมือ EF LINE วันเเรกๆของการใส่อาจไม่สบายนัก แต่ร่างกายจะปรับตัวยอมรับและดีขึ้นเอง

ซึ่งแรกๆเด็กบางคนอาจมีทำท่าทางเหมือนอยากจะอาเจียน แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรพยายามให้เด็กใส่ให้เกิดความเคยชินขึ้น โดยอาจปรับเวลาเป็นการใส่ครั้งแรก อาจใส่ครึ่งชั่วโมงเพื่อการปรับตัวแล้วพัก และใส่ต่อ โดยค่อยๆเพิ่มเวลา เมื่อเวลาผ่านไป เด็กจะสามารถสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ได้นานขึ้น และเพลินเพลินกับการทำกิจกรรมอื่นๆไปด้วยได้ เช่น นั่งใส่ดูการ์ตูน อ่านหนังสือ และอื่นๆโดยไม่เผลอเคี้ยวหรือกัดเล่นเพราะเด็กบางคนอาจเผลอเคี้ยวเล่นหรือพยายามกัดและขยับให้พอดี เเต่อาจเป็นผลทำให้เครื่องมือ EF LINE ขาดได้ ทางที่ดีเมื่อใส่ EF LINE ก็ควรจะปรับ EF LINE ให้ตรงและเตือนเด็กให้พยายามใส่ประคองด้วยฟัน และนิ่งๆไว้ไม่เคี้ยวเล่น เมื่อเวลาผ่านไป ฟัน กระดูกเหงือก เนื้อเยื่อในปาก กล้ามเนื้อและลิ้นจะปรับตัวตามเครื่องมือ ปัญหาอาการระคายเคืองต่างๆจะค่อยๆลดลงจนสามารถใส่ได้นานๆอย่างสบาย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนที่จะช่วยทำให้เด็กเกิดความเคยชินในการใส่เครื่องมือได้

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line สามารถขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลินิก ได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นเด็กที่มีสุขภาพฟันที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

13
คอนโดติดรถไฟฟ้า ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น (The Origin Triam Nom Station)
เริ่มต้น 1.79 ลบ.

ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น (The Origin Triam Nom Station)
คอนโดใหม่ใกล้ รร.เตรียมน้อมฯ ติดถนนใหญ่รามคำแหง เพียง 130 ม. ถึง MRT น้อมเกล้า

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ               ดิ ออริจิ้น เตรียมน้อม สเตชั่น (The Origin Triam Nom Station)
 เจ้าของโครงการ          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
 แบรนด์ย่อย                ดิ ออริจิ้น
 ราคา                       เริ่มต้น 1.79 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล                   คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด                Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ขนาดห้องที่มี                   ตั้งแต่ 24.00 ถึง 34.50 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด                    โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนตึก                       5 อาคาร (เป็นอาคารสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง 1 อาคาร)
 จำนวนชั้น                       8 ชั้น
 จำนวนห้อง                     1,288 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สาธารณูปโภค
สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อื่นๆ (พื้นที่สีเขียวด้านหน้าอาคาร (Green Space), Water Park, Playground & Outdoor Gym, Online Studio, Theater Room, Private Meeting Room, Private Lobby, Co-Working Space , Fitness Room, Green Space, Outdoor Jogging Track, Pet Room และ Pet Park), Co-Working Space, ห้องประชุม

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน       รามคำแหง, บางกะปิ, เสรีไท
 ที่ตั้ง       ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กทม. 10240

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:             ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีส้ม, สถานี(ตลิ่งชัน - สุวินทวงศ์)(น้อมเกล้า)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง     โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ปีที่สร้างเสร็จ                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

14
คอนโดติดรถไฟฟ้า ควินทารา มาย'เดน โพธิ์นิมิตร (Quintara MHy'Den Phonimit)
เริ่มต้น 2.89 ลบ.

ควินทารา มาย'เดน โพธิ์นิมิตร (Quintara MHy'Den Phonimit)
คอนโดโครงการใหม่ที่ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสายหลัก ใกล้แหล่งทำงาน CBD ของกรุงเทพ จับกลุ่มเป้าหมาย คนทำงานใจกลางเมือง ต้องการที่อยู่อาศัยที่เดินทางสะดวก เพียงแค่ 5 นาทีถึงสาธร

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                ควินทารา มาย'เดน โพธิ์นิมิตร (Quintara MHy'Den Phonimit)
 เจ้าของโครงการ          อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท
 ราคา                       เริ่มต้น 2.89 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล               คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด            High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี            สตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี               ตั้งแต่ 23.00 ถึง 55.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด               2 ไร่ 2 งาน 78 ตร.ว.
 จำนวนตึก                 1 อาคาร
 จำนวนชั้น                 40 ชั้น
 จำนวนห้อง              628 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สาธารณูปโภค
สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อื่นๆ (LOBBY, WAITING AREA, EV CHARGER, COMMON Q, AUTO PARKING, MAIL ROOM, WELCOME GARDEN, BANGKOK HILL, LOFT GARDEN, MULTIFUNCTION FIT, MHy? PARTY, MHy? LOUNGE, SPHERE BAR, BBQ CORNER, MHy? STADIUM, PEAK POINT, INFINITE CLOUD PATH, SKY YOGA,MOON SCAPE), สวนหย่อม, ห้องสมุด, Sky Lounge, Co-Working Space, Sky Garden, ห้องประชุม

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน     ธนบุรี
 ที่ตั้ง     ถนนตากสิน - เพชรเกษม บุคคโล  ธนบุรี  กรุงเทพฯ  10600

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:             ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน, สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - บางหว้า(โพธิ์นิมิตร)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ตลาดพลู
ไอคอนสยาม

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ



15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 56