ฉนวนกันเสียง แก้ปัญหาเสียงดังห้องนอนลูกให้ถูกสุขลักษณะเพื่อสุขภาพและพัฒนาการที่ด

[siritidaphon]

“ปัญหาเสียงดัง” ถือเป็นปัญหาที่นำมาซึ่งความรำคาญและบั่นทอนสุขภาพกายสุขภาพใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งขนาดผู้ใหญ่ที่มีความอดทนแล้วก็ยังสุขภาพทรุดโทรมลงได้ง่ายๆ หากอาศัยอยู่ในบ้านที่มีปัญหาเสียงดังจากภายนอกเข้ามารบกวน ทั้งนี้สำหรับ “เด็กเล็ก” โดยเฉพาะตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ปีนั้น ถือเป็นช่วงอายุที่ต้องการการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า 10-16 ชั่วโมง ดังนั้น หากสภาพแวดล้อมในบ้าน ตลอดจนห้องนอนของเด็กไม่สามารถควบ

คุมปัญหาเสียงดังได้ล่ะก็ ย่อมส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และพัฒนาการของเด็กโดยตรง ซึ่งเพื่อเป็นแนวทางให้กับครอบครัวที่มีสมาชิกตัวน้อยต้องดูแล เราจะพาไปดูวิธีจัดการแก้ไขปัญหาเสียงดัง และแนวทางในการควบคุมปัญหาเสียงของห้องนอนลูกให้เงียบสงบกัน โดยมีรายละเอียดที่ควรใส่ใจ ดังต่อไปนี้


1. เสริมผนังกันเสียงในห้องเพื่อป้องกันเสียงดังจากภายนอก

ผนังกันเสียง ถือเป็นวัสดุอะคูสติกที่มีส่วนสำคัญที่สุดในการช่วยป้องกันปัญหาเสียงดังจากภายนอกเข้ามาในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากโครงสร้างผนังของห้องนอน หรือบ้านไม่ได้มาตรฐานมากพอ ก็จะส่งผลให้เสียงดังจากภายนอกไม่ว่าจะเป็นเสียงรถ เสียงเพื่อนข้างบ้าน เสียงจากตลาด หรือห้างร้าน ฯลฯ ดังเข้ามารบกวนอยู่เสมอ ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าห้องนอนของลูกจะเงียบสงบได้มากที่สุด ป้องกันเสียงดังจากภายนอกเข้ามาได้มากที่สุด การเสริมผนังกันเสียง อาทิ ผนังกันเสียง ถือเป็นโจทย์แรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึง



2. ใส่ใจช่องประตู-หน้าต่างที่เสียงดังอาจลอดผ่านได้

นอกจากผนังห้องที่เสียงดังสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้แล้ว ช่องประตู ช่องหน้าต่าง ก็ถือเป็นอีกจุดสำคัญที่เป็นทางผ่านให้เสียงทะลุเล็ดลอดเข้ามาได้ ซึ่งสามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ Noise Zeal หรือ เทปกันเสียง ซึ่งเป็นนวัตกรรมยางคุณภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ใช้สำหรับติดกระจกรถยนต์เพื่อไม่ให้เสียงข้างนอกดังเข้ามาข้างในรถ โดยการติดตั้งนั้นสามารถทำเองได้ เพียงแค่ดึงสติกเกอร์ออกจากเทปกันเสียงแล้วแปะไปตามแนวของประตู หน้าต่าง ก็สามารถช่วยลดเสียงดังได้แล้ว อีกทั้งยังช่วยกันฝุ่น กันแมลงขนาดเล็กได้อีกด้วย ซึ่งก็ยิ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของลูกน้อยเพิ่มขึ้น


3. ห้องอื่นๆ ในบ้าน ควรได้รับการควบคุมเสียงดังด้วย

สำหรับครอบครัวใหญ่ที่อยู่กันหลายคน มีห้องกิจกรรมหลากหลาย อาทิ ห้องทำงาน ห้องดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ ก็จำเป็นต้องคำนึงถึงเสียงดังจากห้องอื่นๆ ภายในบ้านที่จะส่งความรบกวนไปถึงห้องนอนของลูกน้อยด้วย อย่างเช่น ห้องโฮมเธียเตอร์ ก็ควรได้รับการติด ผนังซับเสียง อาทิ ผนังตกแต่งดูดซับเสียง ซึ่งผลิตจากแผ่นกลาสวูล มีคุณสมบัติในการดูดซับเสียง ทำให้ไม่เกิดเสียงก้องเสียงสะท้อน ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียงในห้องมีคุณภาพแล้ว ก็ยังช่วยดูดซับเสียงเอาไว้ไม่ให้ดังออกไปรบกวนนอกห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย


4. ให้ความสำคัญกับการใช้เสียงโดยเฉพาะเวลากลางคืน

ในช่วงเวลากลางคืนนั้น ลูกน้อยควรได้รับการนอนหลับยาวแบบสนิทรวดเดียวจนถึงเช้า ดังนั้น สมาชิกทุกคนในบ้าน จึงจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ให้สอดคล้องกับสมาชิกตัวน้อยด้วย โดยควรระมัดระวังการทำกิจกรรมในตอนกลางคืน ทั้งในเรื่องเสียง และแสง ไม่ให้เกิดการรบกวนการนอนหลับของลูก อาทิ ไม่ดูทีวี ไม่ฟังเพลงเสียงดัง ไม่ทำงานจนดึกดื่น ฯลฯ หรือหากจะต้องทำกิจกรรมต่างๆ จริงๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรหาวิธีการควบคุมเสียง เช่น ใช้หูฟัง สำหรับการฟัง หรือดูงานทุกอย่าง ไปทำงานยังบริเวณอื่นๆ ที่ไม่รบกวนการนอนของลูก เป็นต้น เพื่อให้ลูกน้อยนอนหลับพักผ่อนได้อย่างมีคุณภาพจริงๆ

สำหรับเด็กเล็กนั้น การนอนหลับไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางความคิดโดยตรง อาจทำให้มีปัญหาเรื่องสมาธิสั้น เรียนรู้ช้า ตลอดจนมีปัญหาสุขภาพต่างๆ หลายอย่าง รวมถึงภาวะซึมเศร้าด้วย ฯลฯ ดังนั้น การควบคุมแก้ไขปัญหาเสียงดังให้กับห้องนอนลูก เพื่อให้ลูกได้นอนให้ห้องที่สภาพแวดล้อมเหมาะสม เงียบสงบนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด และในทางที่ดีที่สุด เพื่อให้สามารถแก้ไขควบคุมปัญหาเสียงดังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมงบประมาณได้อย่างเหมาะสม ก็ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยตรงจึงจะดีที่สุด


ฉนวนกันเสียง แก้ปัญหาเสียงดังห้องนอนลูกให้ถูกสุขลักษณะเพื่อสุขภาพและพัฒนาการที่ดี อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://noisecontrol365.com/